
5 ข้อที่ควรสอนลูก เมื่อลูกอยากได้ของเหมือนที่เพื่อนมี
เป็นเรื่องปกติของเด็กทั่วไปที่อยากมีสิ่งของเหมือนกับที่เพื่อนมี เช่น กล่องดินสอสวยๆ อุปกรณ์เครื่องเขียนน่ารัก หรือโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงอาจเพิ่มเรื่องของเครื่องแต่งตัว เสื้อผ้าแบบที่เพื่อนมี แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายคงอยากมีรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าฟุตบอลเท่ๆสักคู่
ทั้งหมดที่กล่าวเป็นเรื่องปกติธรรมดาเกิดขึ้นเกือบทุกครอบครัว แต่สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่จะมีวิธีการสอน ให้แง่คิดกับลูกอย่างไรว่า ควรมีอะไรเมื่อไหร่ ความจำเป็นในการที่จะต้องมีสิ่งนั้นๆมากน้อยแค่ไหน และความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยซึ่งเป็นเรื่องการเงินของครอบครัวเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าพ่อแม่บางท่านจะมีรายได้สูงสามารถหาของที่ลูกต้องการให้ลูกได้ นั่นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องสักทีเดียว เพราะการสอนให้ลูกรู้จักความเหมาะสมและคุณค่าของเงิน รวมถึงการรู้จักอดออมเงินใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นคือสิ่งสำคัญกว่า
บางครั้งการอธิบายถึงคุณค่าของเงินที่พ่อแม่กว่าจะหามาได้แต่ละบาทนั้น เด็กๆยังไม่ค่อยเข้าใจมากมายนัก พ่อแม่จึงควรฝึกให้ลูกรู้จักทำงานเพื่อรับเป็นเงินค่าแรงเล็กๆน้อยๆ แล้วสอนให้เขาสะสมเงินเก็บออมไว้ เมื่อลูกต้องการสิ่งใดควรจ่ายเงินซื้อด้วยตัวเองแต่ถ้าขาดเหลือพ่อแม่อาจช่วยสมทบบ้างตามควร เพื่อเด็กจะได้เข้าใจมากขึ้นว่า ก่อนใช้เงินหรือเรียกร้องอยากจะได้อะไรต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่ต้องคิดทบทวนถึง ความยากกว่าจะได้เงินมา แล้วคุ้มค่าหรือไม่กับการจับจ่ายออกไป และรู้จักถนอมสิ่งของนั้นไม่ทิ้งขว้างง่ายๆเพราะเป็นเงินของลูกเอง
—- 5 ข้อ การสอนลูกเรื่องอยากได้ของเหมือนที่เพื่อนมี —–
1. เริ่มต้นที่ตัวผู้ใหญ่ คือ พ่อ แม่ คนในครอบครัว ต้องไม่เปรียบเทียบหรือชื่นชมยกย่องไปที่สิ่งของที่คนอื่นเขามีและแสดงอาการอยากมีอยากได้แบบเขาบ้าง หรือชอบเปรียบเทียบถึงความดีกว่า เด่นกว่า คลั่งของแพงของมีแบรนด์ให้เด็กได้รับรู้รับฟังบ่อยๆกระทั่งเด็กคิดว่า ต้องมีแบบคนอื่นที่เขามีกันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง (เขามีอะไรเราก็ต้องมีกับเขาด้วย)
2. ไม่พูดจาดูถูกคนที่ไม่มีของหรูหราฟู่ฟ่าราคาแพงหรือเขามีเพียงของธรรมดาๆราคาปกติทั่วไป เด็กจะจดจำพฤติกรรมของผู้ใหญ่และเลียนแบบแนวคิดนั้นได้อย่างแนบเนียน พ่อแม่ควรระวังคำพูด การแสดงออกของตนในการกล่าวถึงผู้อื่น และไม่สอนลูกให้นิยมแต่ของแพงหรืออวดแข่งกับใครๆ
3. การเก็บออมเงิน ถ้าลูกเรียกร้องอยากได้สิ่งของที่เกินตัว หรืออยากได้เพราะเห็นคนอื่นเขามีเราก็อยากมีบ้าง พ่อแม่ควรสอนให้เด็กคิดทบทวนถึงความจำเป็นว่า ทำไมถึงต้องมีสิ่งของอย่างนั้น ใช้ประโยชน์อะไรด้านไหนได้บ้าง ราคาแพงมากน้อยเท่าไร ควรให้ลูกรู้จักเก็บเงินออมด้วยตัวเองเพื่อซื้อของชิ้นนั้น หรืออาจให้ลูกทำงานเพื่อแลกค่าแรง เช่น ช่วยทำงานบ้านที่พ่อแม่กำหนดให้ แล้วค่อยๆสะสมเงินจนครบจำนวนที่ต้องการ จึงพาลูกไปซื้อของที่ลูกอยากได้ด้วยตัวเขาเอง เป็นการสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงินและรู้จักการรอคอย
4. เมื่อได้มาต้องรู้จักแบ่งปัน การแบ่งปันเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ที่ต้องมีและต้องฝึกสอนกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ การเป็นผู้ให้อย่างไม่ต้องการสิ่งตอบแทนเป็นคุณธรรมชั้นสูง พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักการให้ การแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อและรู้จักช่วยแหลือผู้อื่นเสมอเท่าที่ช่วยได้ เพื่อให้ลูกเป็นคนมีน้ำใจโอบอ้อมอารีจะได้เป็นที่รักของบุคคลอื่น
5. พอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆของการดำรงชีวิตอย่างผาสุก ควรอธิบายให้ลูกฟังถึง คุณค่าของความพอใจในสิ่งที่ตนมีอย่างถูกต้องว่า ไม่ใช่การเพิกเฉยต่อการงานความรับผิดชอบ ไม่ใช่การขี้เกียจต่อหน้าที่ที่ควรทำ และไม่ใช่การทอดธุระไม่ขวนขวายหาความเจริญไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดๆ
แต่การพอใจในสิ่งที่ตนมี หมายถึง การทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำงานให้เต็มกำลัง ขยันหมั่นเพียรเล่าเรียนหนังสือ รู้จักใช้ รู้จักเก็บและรู้จักประมาณตน อย่าอยากมีในสิ่งที่เกินกำลังจนทำให้ต้องไปหยิบขโมยของคนอื่น หรือ เป็นทุกข์ใจบีบคั้นใจตัวเอง น้อยใจตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล
เด็กอาจจะยังไม่เข้าใจได้ดีอย่างลึกซึ้งจากการสอนของพ่อแม่ แต่ถ้าผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกๆดูทุกวันเขาก็สามารถเข้าใจได้ เหมือนน้ำซึมบ่อทรายนั่นเอง